Saturday, July 18, 2009

ตู้น้ำชุมชนพอเพียงใช้ไม่ถึง 2 เดือนแผงโซล่าร์เซลล์เจ๊ง

แฉตู้น้ำชุมชนพอเพียงใช้ไม่ถึง 2 เดือนแผงโซล่าร์เซลล์เจ๊ง "มาร์ค" สั่ง "กอร์ปศักดิ์" จัดการ

ชุมชนแฉตู้น้ำโครงการพอเพียงเจ๊งไม่ถึง 2เดือน คาดต่อวงจรแผงโซลาร์เซลล์ผิดต้องใช้ไฟบ้านแก้ขัด ชาวบ้านไม่กล้าใช้เตาเผาขยะ เผยบริการหลังการขายสุดแย่ อีกชุมชนป้ายข้างตู้ระบุยี่ห้อผู้ผลิตผิดชื่อ "มาร์ค" รับจนท.ยัดเยียดโครงการสั่ ง"กอร์ปศักดิ์" จัดการ

จากกรณีที่นายขันติ ปานขลิบ ผู้จัดการ บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ โปร เทคโนโลยี จำกัด หนึ่งในกลุ่มบริษัทขนาดเล็กที่เข้ามารับสินค้าตู้น้ำหยอดเหรียญพลังงานแสง อาทิตย์จากบริษัท บีเอ็นบี อินเตอร์กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ไปจำหน่ายให้ชุมชนในโครงการชุมชนเศรษฐกิจพอเพียง ออกมารับประกันว่า สินค้ามีคุณภาพ และมีราคาที่เหมาะสม เบื้องต้นได้จำหน่ายสินค้าไปให้กับหลายชุมชนในเขตกรุงเทพมหานคร (กทม.) อาทิ ชุมชนเปรมประชา และชุมชนร่วมใจรักในเขตดอนเมือง เป็นต้น สินค้าที่ขายไป มี 2 รุ่น คือ รุ่น w-50f2 ราคาเครื่องละ 280,373.83 บาท บวกแว็ต 7% รวมเป็นราคา 300,000 บาท ส่วนอีกรุ่นหนึ่งคือ w-50f1 ราคาเครื่องละ 233,644.88 บาท บวกแว็ต 7% รวมเป็นราคา 250,000 บาท

ผู้สื่อข่าว "มติชน" ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อมูลในชุมชนเปรมประชา แขวงทุ่งสีกัน เขตดอนเมือง เพื่อยืนยันเรื่องดังกล่าว จากการเปิดเผยของ พล.อ.ต.สมพงษ์ แม้นสงวน ประธานชุมชนเปรมประชา ระบุว่า ชุมชนแห่งนี้ได้ใช้สิทธิจัดซื้อตู้น้ำหยอดเหรียญตามโครงการชุมชนพอเพียงของ รัฐบาลจริง เป็นจำนวน 2 ตู้ วงเงินตู้ละ 250,000 บาท รวม 500,000 บาท ทั้งนี้ เป็นผลมาจากการประชุมหารือร่วมกันของคนในชุมชนว่าต้องการเลือกซื้อสินค้า อะไร หลังจากได้รับแจ้งข้อมูลจากทางเขตดอนเมืองว่าชุนชนมีสิทธิได้รับเงินจาก โครงการฯจำนวน 6 แสนบาท ภายหลังจากทราบเรื่องงบฯไม่นานนัก ทางเขตได้จัดส่งเอกสารแสดงรายการสิ่งของ 4-5 รายการมาให้ชุมชนเลือกด้วย ได้แก่ ตู้น้ำหยอดเหรียญ เครื่องปั่นไฟ เตาเผาขยะประสิทธิภาพสูง เป็นต้น ภายหลังจากชุมชนได้ประชุมกันแล้วมีมติว่าจะเลือกซื้อตู้น้ำหยอดเหรียญ 2 เครื่องดังกล่าว ส่วนเงินที่เหลืออีก 1 แสนบาท ทีแรกไม่รู้ว่าจะเลือกอะไรดี แต่เนื่องจากเสียดายสิทธิส่วนนี้ เลยตัดสินใจซื้อเตาเผาขยะประสิทธิภาพสูงมาใช้งาน จากนั้นชุมชนได้แจ้งเรื่องไปยังเขตให้ทราบ

พล.อ.ต.สมพงษ์กล่าวว่า ส่วนขั้นตอนการจัดซื้อสินค้า ยอมรับกันตามตรงว่า ทางชุมชน ไม่ได้มีส่วนรวมอะไรมาก ผู้ที่รับผิดชอบจัดการมาให้หมด เพราะภายหลังจากแจ้งเรื่องไปที่เขต ไม่นานนักก็ได้รับการติดต่อจากบริษัทเอกชนเพื่อนัดวันนำสินค้ามาติดตั้ง ชุมชนตั้งคณะกรรมการเข้าไปตรวจรับสิ่งของอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากที่ชุมชนได้ตู้น้ำหยอดเหรียญมาใช้ ผ่านไปไม่ถึง 2 เดือน ตู้น้ำดังกล่าวเกิดปัญหาขึ้น แผงโซลาร์เซลล์ไม่สามารถปล่อยไฟเข้าตู้ได้ตามปกติ เข้าใจว่าอาจเกิดปัญหาการต่อแผงวงจรผิด ทำให้ต้องแก้ไขปัญหาด้วยการต่อไฟฟ้าบ้านปกติมาใช้แทน ตอนนี้เลยต้องหมุนเวียนกันใช้ทีละตู้เพื่อประหยัดไฟฟ้า

"สิ่งที่ผมไม่ชอบเอามากๆ กับตู้น้ำหยอดเหรียญ คือเรื่องบริการหลังการขายที่ไม่ค่อยดี เวลาเครื่องมีปัญหาโทร.ไปแจ้งบริษัท ก็ใช้เวลานานกว่าจะเข้ามาดูให้ มันดูไม่ดีเลย ขนาดตัวแบตเตอรี่ ตอนแรกที่เอาของมาส่งเรา เขาไม่มีกล่องปกปิดอะไรให้เลย มาวางไว้เฉยๆ ผมต้องไปหักคออยู่นานกว่าจะได้มา" พล.อ.ต.สมพงษ์กล่าว

พล.อ.ต.สมพงษ์กล่าวด้วยว่า ส่วนเตาเผาขยะประสิทธิภาพสูงที่ซื้อมา ก็มีปัญหาเช่นกัน เพราะขึ้นชื่อว่าเตาเผาขยะ ทุกคนกลัวว่าจะมีปัญหาโดยเฉพาะเรื่องกลิ่น แม้ว่าตอนที่ซื้อจะได้รับการันตีว่า มีประสิทธิภาพสูงเผาขยะไม่มีควัน แต่เป็นไอน้ำ แต่ไม่มีใครไว้ใจ กว่าจะหาที่ตั้งได้ก็ลำบาก แถมในช่วงที่ผ่านมา ไม่ค่อยมีใครมาใช้งาน เนื่องจากทุกวันนี้ ทางเขตมีรถมาเก็บขยะอยู่แล้ว หลังจากผู้ขายทดลองเผาให้ชาวบ้านและนักศึกษาที่มาดูงาน 2 ครั้ง จากนั้นก็ไม่เคยได้ใช้งานอีกเลย

ต่อมา ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ชุมชนร่วมใจรัก ซึ่งตั้งอยู่ใกล้เคียงกัน และถูกระบุว่าเป็นชุมชนที่เลือกซื้อตู้น้ำหยอดเหรียญพลังแสงอาทิตย์ จากบริษัท เอ็นเนอร์ยีโปรฯ จากการสอบถามข้อมูลจากคนในชุมชน ทราบว่า ชุมชนแห่งนี้ซื้อตู้น้ำหยอดเหรียญมาใช้ 2 ตู้ สังเกตพบว่า ตู้น้ำหยอดเหรียญของทั้งสองชุมชน มีรูปแบบเหมือนกันอย่างมาก น่าจะสั่งซื้อมาจากแหล่งเดียวกัน อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบข้างตู้ กลับมีป้ายระบุบริษัท วอเทอร์ เน็ท จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ผลิต ไม่ได้ระบุชื่อของบริษัท บีเอ็นบีฯตามที่เจ้าของบริษัท เอ็นเนอร์ยีโปรฯเคยอ้างว่ารับสินค้ามาจากบริษัท บีเอ็นบีฯแต่อย่างใด

จากการตรวจสอบตู้น้ำหยอดเหรียญของบริษัท เอ็นเนอร์ยีฯ ที่จำหน่ายให้ชุมชนทั้งสองแห่ง คือ รุ่น w-50f2 และรุ่น w-50f1 พบว่า มีคุณสมบัติเครื่องเหมือนกันทุกประการ ส่วนราคาที่แตกต่างกันมีเพียงอย่างเดียวคือ ราคาพัดลมไอน้ำรุ่น s-22 ซึ่งในรุ่น w-50f2 คิดยูนิตละ 40,000 บาท รวม 2 ยูนิต 80,000 บาท ขณะที่ w-50f1 คิดยูนิตเดียวคือ 40,000 บาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการที่ทั้งสองชุมชนไม่สามารถใช้ผลิตภัณฑ์ที่ซื้อมาได้เต็มประสิทธิภาพ สะท้อนให้เห็นว่าโครงการไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่รัฐบาลกำหนดให้งบฯชุมชนไป ส่งเสริมทุกภาคส่วนในชุมชนร่วมบริหารจัดการและพัฒนาศักยภาพของตนให้เพิ่มมากขึ้น สร้างงาน สร้างรายได้ในระดับฐานรากชุมชน อีกทั้งไม่อาจตอบสนองตัวชี้วัดความสำเร็จของโครงการที่กำหนดว่า 1.ประชาชนมีส่วนร่วมในกระบวนการร่วมคิด-ร่วมทำ ร่วมพัฒนา 2.ฟื้นฟูเศรษฐกิจชุมชนอย่างยั่งยืนตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง

เวลา 16.30 น. ที่รัฐสภา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ชี้แจงการสะท้อนของสมาชิกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ภาคอีสานในการ สัมมนาผู้นำชุมชนและท้องถิ่น ที่สะท้อนปัญหาโครงการชุมชนพอเพียงว่า อยากแยก 2 ส่วน คือ 1.มีเรื่องซึ่งไม่ควรเกิดขึ้นเลย คือ แทนที่จะให้ประชาคมชาวบ้านคิดเอง แต่หลายพื้นที่มีเจ้าหน้าที่หรือใครก็แล้วแต่ ไปยัดเยียดโครงการให้ ได้บอกไปยังนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกฯที่ดูแลแล้ว ซึ่งก็ไม่ยอม และบอกว่าต้องเป็นเรื่องความต้องการชุมชน และ 2.เป็นเรื่องที่ลำบากเล็กน้อย เพราะบางทีโครงการที่ชุมชนต้องการไม่สอดคล้องกับหลักเศรษฐกิจพอเพียงนัก แต่อย่างโครงการเรื่องปุ๋ยถือว่าสอดคล้อง แต่อย่างการซื้อโต๊ะเก้าอี้ มีโครงการแบบนี้เยอะแล้ว อยากให้ไปใช้ส่วนอื่น เพราะโครงการชุมชนพอเพียงนี้อยากได้ตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงจริงๆ

ที่โรงแรมมิราเคิลแกรนด์ นายอนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า นายกอร์ปศักดิ์กำลังพยายามกลบเกลื่อนความผิดที่เกิดขึ้น แล้วโยนความรับผิดชอบไปยังชุมชนและข้าราชการระดับล่างถือว่าไม่ถูกต้อง ทั้งนี้ยังพบอีกว่าโครงการในบางจังหวัดมีลักษณะโครงการเหมือนกันอย่างไม่ผิดเพี้ยน ถือว่าผิดปกติมาก จึงตั้งข้อสังเกตว่าอาจมีใครช่วยเขียนโครงการ แล้วอนุมัติในลักษณะอัฐยายซื้อขนมยาย

"นายกอร์ปศักดิ์แสดงความไม่รู้กฎหมาย โดยการเข้าไปเสนอให้ชุมชนกำหนดราคากลางในการดำเนินโครงการ ถือว่าขัดหลักการโครงการ ในร่างโครงการได้มีการแนบหนังสือ เพื่อให้ประธานชุมชนลงนามท้ายหนังสือ ในลักษณะการยินยอมทุกอย่าง ถือว่าผิดปกติ ถ้าหากประธานชุมชนไม่อ่านรายละเอียด ก็จะเข้าข่ายสมรู้ร่วมคิดกับรัฐบาลในการสมยอมให้กำหนดราคากลางในโครงการ จึงอยากเตือนประชาชนว่าไม่ควรให้ใครหลอกลวงซ้ำสอง และไม่ควรเซ็นเอกสารใดๆ หากใครทราบข้อมูลการทุจริตโครงการ สามารถส่งข้อมูลมาที่พรรคเพื่อไทยได้" นายอนุดิษฐ์กล่าว

มติชนออนไลน์ วันที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2552
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1247926389&grpid=01&catid=01

Tuesday, July 14, 2009

เบื้องหลัง 'โกตั๊บ' กับคดีปลอมแปลงเอกสาร กู้เงินแบงก์กรุงไทยพันล้าน !!

เบื้องหลัง 'โกตั๊บ' กับคดีปลอมแปลงเอกสาร กู้เงินแบงก์กรุงไทยพันล้าน !!

เบื้องหลังเอ็มกรุ๊ปของ"สนธิ ลิ้มทองกุล"กู้เงินจากแบงก์กรุงไทย ถูกก.ล.ต.ฟ้องร่วมกันปลอมเอกสารในการทำสัญญาร่วมค้ำประกันการกู้พันล้าน ศาลนัดสืบจำเลยเป็นวันที่ 12 ต.ค.52

13 ปีที่แล้ว บริษัท อินเตอร์เนชั่นแนล เอนจิเนียริง จำกัด(มหาชน) หรือไออีซี ค้ำประกันเงินกู้ให้กับ บริษัท เดอะ เอ็มกรุ๊ป จำกัด บริษัทมีนายสนธิ ลิ้มทองกุล เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่และผู้บริหาร

จะว่าไป เอ็มกรุ๊ป ก็คือ บริษัทแม่ของไออีซี นั่นเอง

ครั้งนั้น เอ็มกรุ๊ปของนายสนธิ กู้เงินจากธนาคารกรุงไทย 1,198 ล้านบาท เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2539 แต่ทางไออีซีไม่ยอมเปิดเผยข้อมูลการค้ำประกันเงินกู้ดังกล่าวให้แก่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ฯ

นายชัยอนันต์ สมุทวณิช ประธานกรรมการไออีซีในช่วงที่มีการค้ำประกันเงินกู้ออกมาปฏิเสธว่า คณะกรรมการไออีซีไม่เคยอนุมัติให้ค้ำประกันเงินกู้ให้เดอะ เอ็มกรุ๊ป แต่ผู้บริหารระดับสูงรายหนึ่งของไออีซีปลอมมติคณะกรรมการ

ต่อมา นายสุรเดช มุขยางกูร กรรมการผู้อำนวยการไออีซี ได้ยอมรับกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)ว่า ไออีซีค้ำประกันเงินกู้ให้เดอะ เอ็มกรุ๊ปจริง

เดือน ธันวาคม ปี 2542 สำนักงาน ก.ล.ต.ได้กล่าวโทษนายสุรเดช ต่อพนักงานสอบสวนโดยกล่าวหาว่า ปลอมหรือยินยอมให้มีการปลอมสำเนารายงานการประชุมคณะกรรมการบริษัทไออีซีเพื่อลวงให้ธนาคารกรุงไทยหลงเชื่อว่า คณะกรรมการบริษัทไออีซีมีมติให้ทำสัญญาค้ำประกันเงินกู้ในนามบริษัท ไออีซี เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์มาตรา 312 ระหว่างโทษจำคุก 5-10 ปี และยังมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาฐานปลอมแปลงเอกสารด้วย

สำนักงาน ก.ล.ต. ในยุคที่ ประสาร ไตรรัตน์วรกุล เป็นเลขาธิการ กลต. ตรวจสอบข้อมูลกรณีดังกล่าวเพิ่มเติม จนกลางเดือนตุลาคม 2543 จึงได้กล่าวโทษ นายสนธิ นายสุรเดช นางสาวเสาวลักษณ์ และนางสาวยุพิน อดีตกรรมการบริษัท ร่วมกันปลอมเอกสารในการทำสัญญาร่วมค้ำประกันการกู้จำนวน 1,073 ล้านบาทให้แก่บริษัท เดอะ เอ็ม กรุ๊ปจากธนาคารกรุงไทยโดยคณะกรรมการบริษัทแมเนเจอร์ มิได้รับทราบและมิได้มีการเปิดเผยข้อมูลในงบการเงินของบริษัทแมเนอร์เจอร์ฯ

การกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์มาตรา 307, 311 312 ซึ่งแต่ละกระทง ระวางโทษจำคุก 5-10 ปีและยังมีความผิดฐานปลอมแปลงเอกสารตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 264 และ 268

หลังสำนักงาน ก.ล.ต.กล่าวโทษ ในครั้งนั้นแล้ว เรื่องราวของนายสนธิและบริษัท เดอะเอ็มกรุ๊ปในคดีนี้ก็เงียบหายไป

แต่จริงๆ คดีนี้ค้างอยู่ในศาลอาญา เกือบ 10 ปี โดยคดีนี้ พนักงานอัยการฝ่ายคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร 1 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายสนธิ ลิ้มทองกุล นายสุรเดช มุขยางกูร น.ส.เสาวลักษณ์ ธีรานุจรรยงค์ และ น.ส.ยุพิน จันทนา อดีตกรรมการบริษัท แมเนเจอร์ มีเดียกรุ๊ป จำกัด(มหาชน) เป็นจำเลยที่ 1-4 ในความผิดฐานกระทำผิด พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์

เนื่องจากนายสนธิ กับพวกซึ่งเป็นกรรมการบริษัท ร่วมกันลงข้อความเท็จในเอกสารของบริษัทแมเนเจอร์ ฯ เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2539-30 เมษายน 2540

ล่าสุด ต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ศาลนัดสืบจำเลย แต่ทนายจำเลย ขอเลื่อนนัด โดยอ้างว่า นายสนธิอยู่ระหว่างพักรักษาอาการบาดเจ็บจากการผ่าตัดบาดแผลถูกลอบยิงที่ศีรษะ

ศาลสั่งเลื่อนคดี เป็นวันที่ 12 ตุลาคม 2552

คดีนี้ เดินไปได้อย่างล่าช้า ผ่านห้วงเวลาที่พลิกผันมาหลายครั้ง จากยุคที่นายสนธิ หรือ โกตั๊บ เชียร์พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ว่าเป็นนายกรัฐมนตรีที่ดีที่สุดเท่าที่ประเทศไทยเคยมีมา จนมาถึงวันที่ความสัมพันธ์ระหว่าง โกตั๊บ กับ ทักษิณ ขาดสะบั้น กลายเป็นศัตรูคู่อาฆาต

จากวันที่ โกตั๊บ เคยเป็นลูกค้าชั้นดีของ ธนาคารกรุงไทย โดยมี วิโรจน์ นวลแข เป็นเพื่อนรักของ โกตั๊บ

ภายในปีนี้ หากสืบพยานฝ่ายจำเลยเสร็จสิ้นลง ศาลอาญาอาจ(จะ)มีคำพิพากษาลงมา

ข่าวดี หรือ ข่าวร้าย ยังต้องรอลุ้นกันต่อไป

แต่ที่แน่ๆ ใครหลายๆคน บอกว่า พฤติกรรมของ นายห้างทักษิณ กับ โกตั๊บ ละม้ายคล้ายกันยิ่งนัก

กุนซือใหญ่ ผู้เคยทำงานให้ทั้งสนธิ และ ทักษิณ กล่าวว่า พวกเขาอาจเคยทำกรรมร่วมกันมาในชาติก่อน ทำให้ต้องมาตามล้างกันในชาตินี้

กุนซือใหญ่ ผู้หนึ่ง กล่าวว่า "สนธิ เป็นคนศึกษาประวัติศาสตร์ มองเกมมองคนทะลุปรุโปร่ง ส่วนทักษิณ เป็นคนฉลาด แต่พังเพราะบริวารเป็นพิษ"

ถ้า ทักษิณ มีคนเสื้อแดง และกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ(นปช.) เป็นผนังทองแดง สนธิ ก็มี พวกเสื้อเหลือง และกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เป็น กำแพงเหล็ก

ถ้าทักษิณ ใช้สโลแกน คิดใหม่ ทำใหม่ สนธิ ก็ใช้ การเมืองใหม่ เป็นธงนำความคิด

ถ้าทักษิณ มีมูลนิธิไทยคม เสริมภาพลักษณ์เชิงบวก สนธิ ก็มี มูลนิธิ ไชย้ง ลิ้มทองกุล เป็นมูลนิธิเพื่อสังคม ซึ่ง 2 มูลนิธิ ก่อตั้งขึ้นในเวลาไล่เลี่ยกัน

ถ้าทักษิณ มีทนายคู่บุญคือ ชานนท์ สุวสิน สนธิ ก็มีทนายคู่ใจชื่อ สุวัตร อภัยภักดิ์

ถ้าทักษิณ เป็นตัวแทนของระบอบประชาธิปไตยที่เน้นย้ำว่า "ผมมาจากการเลือกตั้ง" สนธิ คือผู้ประกาศตัว พิทักษ์สถาบันกษัตริย์ ต่อต้านระบบประธานาธิบดี

ถ้าทักษิณ เคยเฉียดล้มละลาย สนธิ ก็ผ่านการล้มละลายมาแล้ว

ถ้าทักษิณ ต้องคำพิพากษาจำคุก คดีที่ดินรัชดาฯ สนธิ ก็กำลังลุ้นระทึกกับคดีหลายสิบเรื่องในศาล

ถ้าทักษิณ มี ชินแซทเทลไลท์ สนธิ ก็เกือบมี ลาวสตาร์ ไว้เชยชม

ถ้าทักษิณ มีพันศักดิ์ วิญญรัตน์ เป็นที่ปรึกษาทางความคิดและไอเดียหลุดโลก สนธิ ก็มี ชัยอนันต์ สมุทวณิช เป็นนักวิชาการผู้ขี่กระแสโลกาภิวัตน์เป็นคู่บารมี

ถ้าทักษิณ เคยถูกลอบสังหารมาแล้ว 3 ครั้ง สนธิ ก็โดนมาแล้ว มากกว่า 3

ถ้าทักษิณ ใช้บริการนอมินี ไม่ว่าจะเป็น ลูกสาวและลูกชายของตนเอง รวมถึงแก๊งค์คนรับใช้ เช่น นางสาวบุญชู เหรียญประดับ นางสาวดวงตา วงศ์ภักดี นายวิชัย ช่างเหล็ก ถือหุ้นมูลค่าหลายหมื่นล้าน แทนตัวเอง หรือ ที่เรียกว่า นอมินี สนธิ ก็เรียนรู้วิธีการนี้มาอย่างดี

และถ้าทักษิณ มีปมเรื่อง ชินคอร์ป เป็นจุดตาย

บางที สนธิ อาจต้องลุ้นกับคดี ไออีซี จนนอนไม่หลับ !!!

ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
วันที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2552 เวลา 14:23:51 น.
http://www.matichon.co.th/prachachat/news_detail.php?newsid=1247470290&grpid=01&catid=00

Thursday, July 9, 2009

Update Influenza A(H1N1) May To July 2009 Thailand

Situation updates - Pandemic (H1N1) 2009
Influenza A(H1N1) 2009
25 May 2009 To 6 July 2009

สถานการณ์ ยอดผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการ Influenza A(H1N1) ไข้หวัดใหญ่ 2009 (ไข้หวัดหมู) ในประเทศไทย เทียบกับต่างประเทศอย่างเป็นทางการ รายงานโดย WHO ตั้งแต่ปลายเดือน พฤษภาคม ถึง ต้นเดือนกรกฎาคม 2552


Influenza A(H1N1) - update 38
25 May 2009

Influenza A(H1N1) - update 46
10 June 2009

Influenza A(H1N1) - update 54
26 June 2009

Pandemic (H1N1) 2009 - update 58
6 July 2009

Source : http://www.who.int/csr/disease/swineflu/updates/en/index.html

สัมภาษณ์-แถลงข่าว ของรัฐบาล จาก 11 มิ.ย. 2552 ถึง 9 ก.ค. 2552

สัมภาษณ์-แถลงข่าว ของรัฐบาล จาก 11 มิ.ย. 2552 ถึง 9 ก.ค. 2552
http://www.prd.go.th/H1N1/

รมว.ศธ.เตือนผู้ปกครองอย่าตื่นตระหนก หลังพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในร.ร.เอกชนชื่อดัง
[11 มิ.ย. 2552]
รัฐมนตรี ว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เตือนผู้ปกครองอย่าตื่นตระหนก หลังพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในโรงเรียนเอกชนชื่อดัง พร้อมสั่งให้ทุกโรงเรียนคุมเข้มป้องกันการแพร่เชื้ออย่างเคร่งครัด

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวถึงกรณีนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเอกชนชื่อดัง ที่ติดเชื้อไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ 2009 ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 ว่า ได้รับรายงานจากนายแพทย์ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ว่าขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขได้เข้าไปดูแล และดำเนินการตามกระบวนการทางการแพทย์ เพื่อระวังและป้องกันไม่ให้มีการแพร่ระบาดไปยังนักเรียนรายอื่นแล้ว จึงขอให้ผู้ปกครองอย่าตื่นตระหนก และขอให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด และหากพบว่าบุตรหลานไม่สบาย ก็ขอให้หยุดเรียนและรีบไปพบแพทย์ทันที ส่วนจะต้องถึงขั้นปิดโรงเรียนหรือไม่นั้น ให้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของโรงเรียนและกระทรวงสาธารณสุข

อย่างไรก็ตามได้เคยมอบนโยบายให้คุมเข้มเรื่องนี้ก่อนเปิดเทอมอยู่แล้ว ดังนั้นขอให้ทุกโรงเรียนปฏิบัติตามนโยบายอย่างเคร่งครัด
--------------------------
รมช.สาธารณสุขยันคุมสถานการณ์ไข้หวัดใหญ่ 2009 ได้
[12 มิ.ย. 2552]
นายมานิต นพอมรบดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ยันคุมสถานการณ์ไข้หวัดใหญ่ 2009 ได้

นาย มานิต นพอมรบดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึง การแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ว่า ขณะนี้ยังไม่ถึงขั้นต้องสั่งปิดพื้นที่พัทยาและจังหวัดภูเก็ต หลังจากพบว่ามีผู้ติดเชื้อ ส่วนสาเหตุที่พบผู้ติดเชื้อใน 2 พื้นที่ เพราะเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ยืนยันว่า มาตรการเฝ้าระวังดำเนินการมาถูกต้องแล้ว การที่พบผู้ติดเชื้อหลังจากเดินทางกลับไปจากประเทศไทยแล้ว ยากต่อการตรวจสอบ เพราะอาจอยู่ในระยะฟักตัว ไม่แสดงอาการ ยืนยันว่า สามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้แล้ว

ส่วนที่มีการพบเชื้อในโรงเรียนเซนต์คาเบรียล กระทรวงศึกษาธิการ กรุงเทพมหานครและกระทรวงสาธารณสุขจะประชุมร่วมกัน วันจันทร์ที่ 15 มิถุนายนนี้ เพื่อกำหนดมาตรการการดูแลนักเรียน มั่นใจว่า รัฐบาลยังสามารถดูแลได้ ไม่จำเป็นต้องเพิ่มระดับมาตรการเฝ้าระวัง
--------------------------
สธ.ชี้ระบาดวงแคบ อย่าตื่นหวัด เร่งปรับแผนคุมโรค
[12 มิ.ย. 2552]
รมว.สาธารณสุข เผยที่ประชุมคณะกรรมการศูนย์ปฏิบัติการฯ ประเมินไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ไม่รุนแรง ยังระบาดวงแคบในชุมชน อำเภอ จังหวัด วอน ประชาชนอย่าตื่นตระหนก ชี้ สถานการณ์ในไทยอยู่ในระยะบี ...

วันนี้ (12 มิ.ย.) ที่ห้องประชุมชัยนาทนเรนทร กระทรวงสาธารณสุข นายวิทยา แก้วภราดัย รมว.สาธารณสุข กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้ภาวะฉุกเฉินทางด้าน การแพทย์และสาธารณสุข ว่า จากการประเมินสถานการณ์การระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ในประเทศไทย พบว่า โรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ยืนยันได้ว่า มีผลกระทบต่อประชาชนไม่รุนแรงมากนัก มีลักษณะอาการไม่แตกต่างไข้หวัดใหญ่ประจำปี สำหรับภารกิจที่กระทรวงสาธารณสุขต้องดำเนินการเร่งด่วน ขณะนี้ คือ การจัดการบริหารการลดความตื่นตระหนกของประชาชน ให้สอดคล้องกับภาวะความเป็นจริงของสถานการณ์โรค ทั้งนี้สถานการณ์การระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ในประเทศไทย ถืออยู่ในระยะ บี ซึ่งมีโอกาสพัฒนาไปถึง ระยะซี แต่โดยภาพรวมของพัฒนาการเป็นการพัฒนาการระบาดในวงแคบ เช่น ชุมชน อำเภอ จังหวัด เพราะการพัฒนาจากสถานการณ์จากเอ ไปบี ไปซี นั้น มีทิศทางกำหนดวงแคบตามสถานการณ์ที่เป็นจริง

นายวิทยา กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีของผู้ติดเชื้อในเมืองพัทยา สถานการณ์การแพร่ระบาดอยู่ในระดับบี และมีโอกาสพัฒนาสู่ระดับซี ถ้ามีการพัฒนาก็เป็นเฉพาะส่วนพื้นที่ โดยกระทรวงสาธารณสุข ก็มีมาตรการควบคุมดูแลทั้งหมด ทั้งนี้ เพื่อให้เป็นไปตามสถานการณ์ที่เป็นจริง ทางกระทรวงสาธารณสุข จึงเปลี่ยนแปลงองค์กรกระทรวงสาธารณสุข ที่ปฏิบัติการในเรื่องไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ จึงมีการยุบหน่วยงาน ให้เหลือเพียงศูนย์ปฏิบัติการควบคุมการระบาดไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ โดยมี นพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานอำนวยการศูนย์ดังกล่าว ทำหน้าที่ในการควบคุมการระบาดโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ให้อยู่ในระดับที่ควบคุมได้ โดยมียุทธศาสตร์ ดังนี้ ศูนย์จะทำหน้าที่เฝ้าระวังและควบคุมการระบาดตั้งแต่วันนี้ จะส่งสัญญาณไปยังสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ ให้เฝ้าระวังพื้นที่การแพร่ระบาด รวมทั้งรายงานผลการระบาดมายังศูนย์ปฏิบัติการ เพื่อศูนย์ปฏิบัติการจะดำเนินการควบคุมการระบาดของโรคในพื้นที่นั้น ให้จำกัดวงแคบมากที่สุด

รมว.สาธารณสุข กล่าวต่อว่า การให้ข้อแนะนำด้านสุขศึกษาแก่ประชาชนในการควบคุมเฝ้าระวังโรค โดยมอบหมายให้กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ รวบรวมจัดทำเอกสารข้อชี้แนะเผยแพร่ ผ่านทุกกระทรวง ทบวง กรม องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น โดยให้ทางกรุงเทพมหานคร จัดพิมพ์เผยแพร่ ในเขตกรุงเทพฯ และในส่วนต่างจังหวัด จะขอความร่วมมือทุกหน่วยงานในการเผยแพร่เอกสารดังกล่าว และกระทรวงสาธารณสุขจะส่งเอกสารดังกล่าวไปยังอาสาสมัครสาธารณสุขกว่า 9 แสนคน ทั่วประเทศด้วย

นายวิทยา กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ หลังจากตรวจ ควบคุมผู้ป่วยแล้ว จะกำหนดทิศทางการดูแลผู้ป่วย ผู้ป่วยที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้ สามารถเป็นทั้ง โรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ธรรมดา ที่ระบาดประจำปีในช่วงฤดูฝน ซึ่งจะเริ่มระบาดแล้ว โดยข้อแนะนำสำหรับประชาชนที่ไม่สบาย ควรจะยุดภารกิจต่างๆ หากเป็นนักเรียนควรหยุดเรียน ข้าราชการ ควรหยุดทำงาน และหลีกเลี่ยงการเข้าไปในแหล่งชุมชน และพักรักษาตัวเอง หากอาการหนักมากต้องรีบไปพบแพทย์ หากไอธรรมดา ให้พยายามรักษาอาการตัวเองให้หาย

ข่าวโดย : ไทยรัฐ
--------------------------
"กรณ์" เชื่อ การแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดฯ 2009 ไม่กระทบเศรษฐกิจไทย
[12 มิ.ย. 2552]
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ระบุ การแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ไม่กระทบเศรษฐกิจไทย

นาย กรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงกรณีการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ในประเทศขณะนี้ว่า ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย เพราะที่ผ่านมากระทรวงสาธารณสุข สามารถรับมือและดูแลปัญหาได้ดี จนสามารถสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติได้ อย่างไรก็ตามยอมรับว่า ประเทศที่เปิดเสรีการค้า เช่น ไทยและฮ่องกง ย่อมมีความเสี่ยงสูงที่เชื้อโรคแพร่ระบาดได้ง่าย แต่รัฐบาลก็ได้มีการติดตามสถานการณ์และเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด

นายกรณ์ กล่าวยอมรับว่า ภาวะเศรษฐกิจของไทยขณะนี้ยังอยู่ในภาวะถดถอย รัฐบาลจึงได้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็งปี 2555 วงเงิน 1.43 ล้านล้านบาท เพื่อลงทุนในโครงการที่จะเน้นแก้ไขปัญหาการว่างงาน และเพิ่มกำลังซื้อในประเทศ และเกิดประโยชน์คุ้มค่าในระยะยาว ซึ่งยืนยันว่าการกู้ดังกล่าวไม่ได้เพิ่มภาระต่องบประมาณ จนทำให้มียอดกู้เงินร้อยละ 15 ของงบประมาณทั้งหมด
--------------------------
สธ.เตรียมแจงประชาชนผ่านทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
[16 มิ.ย. 2552]
กระทรวงสาธารณสุข เตรียมแจงประชาชนผ่านทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย พร้อมเปิดช่องทางพิเศษรองรับคนไข้ 4 กลุ่มเสี่ยง

นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เตรียมชี้แจ้งข้อเท็จจริงและข้อสงสัยแก่ประชาชนกรณีไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ ใหม่ 2009 ผ่านทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ในวันอาทิตย์ที่ 21 มิถุนายน 2552 เวลา 20.30-22.00น. โดยระดมทีมแพทย์จากโรงพยาบาลจุฬา โรงพยาบาลศิริราช โรงพยาบาลรามาธิบดี และทีมระบาดวิทยา มาตอบข้อซักถามแก่ประชาชน

นายวิทยา กล่าวอีกว่า ได้เปิดช่องทางพิเศษในการรักษาแก่ผู้ป่วย 4 กลุ่มเสี่ยง โดยสั่งให้โรงพยาบาลทุกโรงพยาบาลรักษาผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงอย่างเร่งด่วน และรายงานผลมายังอธิบดีกรมการแพทย์ทันที ทั้งนี้ การใช้วัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 คาดว่าน่าจะใช้ล็อตแรกได้ในเดือนตุลาคมนี้
--------------------------
สธ. เผยไทยพบผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯ เฉลี่ยวันละ 16 ราย ใกล้เคียงไข้หวัดใหญ่ทั่วไป
[18 มิ.ย. 2552]
กระทรวงสาธารณสุข เผยไทยพบผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ฯ เฉลี่ยวันละ 16 ราย ใกล้เคียงกับจำนวนผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่ทั่วไป วันนี้ผลแล็บพบติดเชื้อเพิ่ม 95 ราย ไม่ใช่เรื่องน่าตกใจแต่แสดงถึงประสิทธิภาพของระบบป้องกันควบคุมโรคของประเทศ พร้อมทั้งปรับมาตรการเฝ้าระวังโรคที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพิ่มจุดตรวจรักษาผู้มีอาการป่วยที่เดินทางเข้าประเทศ ตลอด 24 ชั่วโมง

ที่ กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายแพทย์ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข แถลงข่าวภายหลังประชุมคณะกรรมการศูนย์ควบคุมป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ ใหม่ฯ ว่า ในวันนี้ได้รับรายงานผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ พบยืนยันติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 อีก 95 ราย เป็นผู้เดินทางจากต่างประเทศ 3 ราย กลุ่มนักเรียน 88 ราย และประชาชน 4 ราย ส่วนใหญ่รักษาตัวที่บ้าน รับไว้พักรักษาในโรงพยาบาลเพียง 12 ราย ทุกรายอาการดีไม่น่าห่วง สรุปตั้งแต่พบผู้ป่วยรายแรกเมื่อเดือนพฤษภาคมจนถึงวันนี้ มีผู้ป่วยยืนยันโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯ สะสม 405 ราย เฉลี่ยวันละ 16 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต ขณะที่โรคไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนๆ พบผู้ป่วยจำนวนใกล้เคียงกัน และคาดการณ์ว่าในปีนี้จำนวนผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลอาจจะสูงกว่าปี ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ นักระบาดวิทยาคาดประมาณว่า แต่ละปีไทยพบผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล 3-4 ล้านคน ในจำนวนนี้เข้ารับการตรวจรักษาที่โรงพยาบาล 9 แสนคน นอนรักษาตัวในโรงพยาบาล 36,000 คน และมีผู้เสียชีวิตประมาณหลักร้อยหรือหลักพัน ขณะที่ทั่วโลก แต่ละปีพบผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ประมาณ 1,000 ล้านคน เป็นผู้ป่วยที่ไม่ต้องนอนโรงพยาบาล 100-200 ล้านคน นอนโรงพยาบาล 3-5 ล้านคน เสียชีวิต 250,000–500,000 คน

“การที่ไทยพบผู้ป่วยยืนยันเพิ่มขึ้นทุกวัน บ่งบอกถึงประสิทธิภาพของระบบการป้องกันควบคุมโรคของประเทศ มิได้หมายความว่าการทำงานล้มเหลว การตรวจตัวอย่างยืนยันเชื้อทางห้องปฏิบัติการ มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อติดตามแนวโน้มของการแพร่เชื้อ รวมทั้งใช้เป็นฐานข้อมูลวิชาการ ทั้งระดับประเทศและโลก โดยผลการตรวจยืนยันแต่ละวันอาจพบมากหรือน้อยแตกต่างกัน จึงขอให้ทุกฝ่ายเข้าใจที่มาของตัวเลขที่กระทรวงสาธารณสุขแถลงรายวัน” นายแพทย์ปราชญ์กล่าว

นายแพทย์ปราชญ์กล่าวต่อว่า ในขณะนี้พบผู้ป่วยสะสมใน 32 จังหวัด ผู้ป่วยร้อยละ 34 อยู่ในภาคกลาง จำนวนผู้ป่วยมากที่สุดใน กทม. พบเด็กป่วยในโรงเรียน 32 แห่ง ผู้ป่วยทุกรายได้รับการดูแลรักษาเพื่อควบคุมการระบาดให้อยู่ในวงจำกัดที่สุด และได้ให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ เร่งการป้องกันควบคุมโรค เน้นการประชาสัมพันธ์ความรู้เรื่องโรค การป้องกันตัว การดูแลเมื่อป่วย แก่ประชาชนทุกช่องทาง และใช้หอกระจายข่าวทุกหมู่บ้าน และจะเร่งออกหนังสือปกเขียว “รู้เท่าทันเพื่อป้องกันไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่” จำนวน 1 ล้านเล่ม แจกแก่ประชาชนให้ทันภายในวันศุกร์นี้

ด้านนายแพทย์ หม่อมหลวงสมชาย จักรพันธุ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า สำหรับมาตรการคัดกรองผู้เดินทางเข้าประเทศที่สนามบินสุวรรณภูมินั้น ยังคงมีการคัดกรองผู้ป่วยด้วยเครื่องเทอร์โมสแกน และแจกบัตรแนะนำสุขภาพ แต่จะปรับมาตรการ โดยจะตั้งจุดตรวจรักษา 1 จุด มีแพทย์พยาบาลประจำการ 24 ชั่วโมง โดยติดป้ายประกาศแจ้งผู้โดยสาร ทั้งภาษาไทยและอังกฤษทุกประตู เพื่อแนะนำให้ผู้ที่มีไข้ ไอ มารับการตรวจรักษาที่จุดดังกล่าว หากอาการรุนแรงจะส่งรักษาต่อในโรงพยาบาล ส่วนผู้ที่อาการไม่รุนแรงจะให้คำแนะนำการปฏิบัติตัวและติดตามอาการทุกวัน ส่วนการกรอกแบบสอบถามสุขภาพ หรือ ต 8 ซึ่งให้ผู้โดยสารกรอกเองก่อนลงเครื่อง จะยกเลิก เนื่องจากการประเมินที่ผ่านมาพบว่าการกรอกข้อมูลไม่ตรงกับความจริงทำให้ ประสิทธิภาพในการเฝ้าระวังป้องกันโรคน้อย
--------------------------
นายกฯ ย้ำ ไทยไม่จำเป็นต้องตื่นตระหนกกับยอดผู้ป่วยหวัดใหญ่ 2009 ที่เพิ่มสูงขึ้น
[21 มิ.ย. 2552]
นายกรัฐมนตรี ย้ำ ไทยไม่จำเป็นต้องตื่นตระหนกกับยอดตัวเลขผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ที่เพิ่มสูงขึ้น เพราะรัฐบาลมีการวางแนวทางรองรับไว้ดีแล้ว

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการเชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์ ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทยว่า การติดตามสถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ตัวเลขผู้ป่วยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามียอดผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นค่อนข้าง รวดเร็ว โดยเฉพาะช่วงเปิดภาคเรียน ส่วนใหญ่เป็นผู้ติดเชื้อจากประชาชนที่เดินทางเข้ามาจากต่างประเทศ และมีหลายประเทศที่มีตัวเลขยอดผู้ติดเชื้อสูงเช่นเดียวกัน รัฐบาล ย้ำว่า ประเทศไทยไม่จำเป็นต้องตื่นตระหนก เพราะมีการวางแนวทางรองรับไว้แล้ว ขอให้ประชาชนที่ป่วยและอยู่ในข่ายต้องสงสัยจะป่วยเป็นโรคไข้หวัดใหญ่สาย พันธุ์ใหม่ 2009 ให้รีบเข้ารับการรักษาพยาบาล พร้อมแจ้งข้อมูลมาที่หน่วยราชการที่ดูแลอยู่ เพื่อจะได้รีบเข้าไปควบคุมโรค อย่างไรก็ตาม โรคไข้หวัดใหญ่นี้รักษาหายได้ไม่ยาก ส่วนกลุ่มเสี่ยงที่ป่วยแล้วเสียชีวิตมีการแยกออกมาพิเศษ ประกอบกับ กระทรวงสาธารณสุข ได้วางระบบควบคุมไว้อย่างดีแล้ว จึงไม่มีอะไรที่น่ากังวลมากนัก
--------------------------
สธ. เร่งสร้างความเข้าใจประชาชน ป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009
[23 มิ.ย. 2552]
กระทรวงสาธารณสุข เร่งสร้างความเข้าใจให้กับประชาชนในการป้องกันจากโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ ใหม่ 2009 พร้อมมั่นใจ สามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโรคช่วงเดือนกรกฎาคมนี้ได้

นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ที่องค์การอนามัยโลก หรือ WHO ประกาศเพิ่มระดับการแพร่ระบาดเป็นระดับ 6 ว่า ไม่ได้หมายความว่าสถานการณ์แพร่ระบาดรุนแรงขึ้น แต่เป็นการแพร่ระบาดไปทั่วโลก ขณะนี้ประชาชนยังไม่เข้าใจ จึงได้มอบหมายให้สำนักระบาดวิทยาสำรวจตัวเลขของผู้ติดเชื้อและผู้ที่ป่วย อยู่ในกลุ่มเสี่ยงในโรงพยาบาล โดยได้ข้อสรุปว่าไม่ต่างจากโรคไข้หวัดใหญ่ทั่วไป และแนวทางการรักษาก็ใกล้เคียงกัน แต่ประชาชนเกิดความสับสน เพราะเมื่อมีการแจ้งตัวเลขยอดผู้ป่วย 700-800 คนที่ติดเชื้อ ขณะที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อเฉลี่ยต่อวันมีเพียง 10 คนเท่านั้น ซึ่งมีผู้ป่วยร้อยละ 80 ที่รักษาหายและเดินทางกลับบ้าน จึงเชื่อว่าตัวเลขผู้ป่วยจะลดลง และจากนี้ไปกระทรวงสาธารณสุขจะมีการแจ้งตัวเลขยอดผู้ติดเชื้อ ควบคู่ไปกับยอดตัวเลขผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาหาย เพื่อลดความวิตกกังวลของประชาชน

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ย้ำว่า กระทรวงสาธารณสุข จะเร่งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเข้าใจวิธีการป้องกันและดูแลตนเอง พร้อมทั้งมั่นใจว่า ไทยจะสามารถผ่านวิกฤติการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ที่จะมีการแพร่กระจาย ของเชื้อในช่วงเดือนกรกฎาคมนี้ได้
--------------------------
นายกฯ กำชับ สธ.เพิ่มแนวทางป้องกันแพร่ระบาดหวัด 2009 หลังมีผู้เสียชีวิตในไทยเป็น 3 ราย
[29 มิ.ย. 2552]
นายก รัฐมนตรี กำชับกระทรวงสาธารณสุขเพิ่มแนวทางป้องกันการแพร่ระบาด หลังมีผู้เสียชีวิตจากโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ในไทยเพิ่มเป็น 3 รายแล้ว

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีมียอดผู้เสียชีวิตจากโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 เพิ่ม เป็น 3 รายว่า ขณะนี้กำลังสอบถามถึงปัจจัยที่เกี่ยวข้องในการเสียชีวิต ซึ่งยืนยันความรุนแรงของการเสียชีวิตยังเหมือนกับโรคไข้หวัดใหญ่ทั่วไป แต่รัฐบาลจะยังไม่เลิกติดตามสถานการณ์อย่างแน่นอน และกำชับให้กระทรวงสาธารณสุขเพิ่มแนวทางป้องกันการแพร่ระบาด รวมถึงประชาสัมพันธ์มากขึ้น แต่ประชาชนยังต้องเฝ้าระวัง เพราะช่วงนี้มีการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว ซึ่งหากพบว่ามีอาการไข้ให้รีบไปพบแพทย์ โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง ทั้งเด็ก ผู้มีโรคประจำตัวและผู้สูงอายุ
--------------------------
นายกฯ ยืนยัน รัฐให้ความสำคัญการป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009
[2 ก.ค. 2552]
นายกรัฐมนตรี ยืนยัน รัฐบาลให้ความสำคัญกับการป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 เต็มที่ เพื่อไม่ให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น พร้อมเตือนประชาชนอย่าตื่นตระหนก เพราะอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ

นาย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ขณะนี้รัฐบาลยังคงให้ความสำคัญกับการเฝ้าระวัง ป้องกันการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง แม้ว่าในต่างประเทศจะไม่ค่อยมีการติดตามตัวเลขผู้ป่วยแล้วก็ตาม เนื่องจากอาการและความรุนแรงของโรคเหมือนกับไข้หวัดใหญ่ทั่วไป จึงไม่อยากให้ประชาชนตื่นตระหนก เพราะอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า รัฐบาลดูแลเรื่องนี้อย่างเต็มที่ เพื่อไม่ให้มีการเสียชีวิตเพิ่มขึ้น

ส่วนวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จะเข้ามาประมาณเดือนกันยายน-ตุลาคมนี้ และไทยได้สั่งจองไว้แล้ว ส่วนเรื่องยารักษาโรคยืนยันว่ายังมีเพียงพอ และการผลิตไม่ยาก นอกจากนี้ ยังมอบให้กระทรวงสาธารณสุขประสานองค์การอนามัยโลก เพื่อสอบถามแนวปฏิบัติต่อไป พร้อมยืนยันจะไม่ให้มีการเสียชีวิตจากการรักษาผิดหรือล่าช้าอย่างเด็ดขาด
--------------------------
นายกฯ กำชับสถานพยาบาล เข้มดูแลผู้ป่วยหวัด 2009 ให้รัดกุมมากขึ้น
[5 ก.ค. 2552]
นายกรัฐมนตรี กำชับให้สถานพยาบาลทั้งภาครัฐและเอกชน ดูแลผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ให้มีความปลอดภัยและรัดกุมมากขึ้น พร้อมย้ำทุกคนสามารถป้องกันและรักษาโรคได้

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวผ่านรายการเชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์ ถึงสถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ว่า ขณะนี้ได้ขอความร่วมมือท้องถิ่นเข้าไปดูแลและทำความสะอาดพื้นที่บางส่วนที่ สงสัยว่ามีการแพร่ระบาด และกำชับให้สถานพยาบาลทั้งภาครัฐและเอกชนดูแลให้ผู้ป่วยให้มีความปลอดภัยและ รัดกุมมากยิ่งขึ้น พร้อมย้ำว่า ทุกคนสามารถดูแลรักษาและป้องกันตนเองได้ด้วยการดูแลสุขภาพตัวเอง โดยการหมั่นล้างมือ หากพบว่ามีอาการเป็นไข้สูงให้รีบไปพบแพทย์ หลีกเลี่ยงในการเข้าไปในชุมชนที่มีโอกาสแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่
--------------------------
WHO ระบุมาตรการรับมือหวัดใหญ่2009 ของไทย มาถูกทางแล้ว ยันเชื้อเป็นตัวเก่าที่เคยระบาดแล้ว ความรุนแรงไม่น่ากลัว
[9 ก.ค. 2552]
องค์การอนามัยโลกระบุมาตรการรับมือหวัดใหญ่2009 ของไทย มาถูกทาง ยืนยันเชื้อเป็นตัวเก่าที่เคยระบาดแล้ว ความรุนแรงไม่น่ากลัว

นพ.สำลี เปลี่ยนบางช้าง ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวถึงมาตรการที่กระทรวงสาธารณสุขไทยดำเนินการกับโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ ใหม่ 2009 ว่า เป็นทิศทางถูกต้องตามที่องค์การอนามัยโลกยึดถือมาตลอด ซึ่งการที่บอกว่าไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ไม่รุนแรง ไม่ใช่การบิดเบือนความจริงอย่างที่มีหลายคนออกมาวิจารณ์ แต่การที่ไทยมียอดผู้ป่วยและเสียชีวิตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนเป็นประเทศที่มียอดผู้ป่วยและเสียชีวิตสูงสุดในภูมิภาคนี้ เป็นเพราะระบบติดตามและรายงานที่มีประสิทธิภาพ ที่หลายประเทศพยายามมาเรียนรู้การจัดการระบบจากไทย ทั้งนี้ ประชาชนไม่ควรตระหนก เพราะเชื้อไวรัสชนิด A H1N1 ไม่ใช่เชื้อตัวใหม่ แต่เป็นตัวเก่าที่กลับมาระบาดระลอกใหม่ ซึ่งวิธีป้องกันคือดูแลตัวเองให้แข็งแรงตามคำแนะนำ และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ส่วนมาตรการของรัฐบาล ที่อาจมีการปิดโรงเรียนกวดวิชาและร้านเกมส์ เพื่อทำความสะอาด อาจไม่ใช่วิธีป้องกันการระบาดของเชื้อ แต่ช่วยให้บ้านเมืองสะอาด และคนมีความตื่นตัวในการป้องกันตัวเองให้แข็งแรงและปลอดภัยจากโรคภัยต่างๆ

สำหรับสถานการณ์ของโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 ของไทย วันนี้พบผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 1 ราย เป็นนายตำรวจวัย 52 ปี เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ ตั้งแต่วันที่ 29 มิถุนายน2552 โดยมีโรคประจำตัวคือไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย เสียชีวิตเมื่อเวลา 19.00 น.วานนี้(8 กค) นับเป็นผู้เสียชีวิต รายที่ 12 ส่วนยอดผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่มเติมวันนี้พบ 211 ราย ทำให้มียอดผู้ป่วยสะสมรวม 2,925 ราย แต่ส่วนใหญ่หายดีแล้ว เหลือประมาณ 100 รายเท่านั้น ที่ยังต้องรอดูอาการอย่างใกล้ชิดที่โรงพยาบาล
--------------------------
รมช.สธ. รับมีผู้ติดเชื้อไข้หวัด 2009 มากกว่าที่กระทรวงเปิดเผย พร้อมเพิ่มแพทย์ช่วงค่ำรองรับประชาชน
[9 ก.ค. 2552]
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ยอมรับมีผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 มากกว่าที่เปิดเผย พร้อมเพิ่มแพทย์ช่วงหัวค่ำ เพื่อรองรับการเข้ารับบริการของประชาชน และเตรียมปิดโรงเรียนกวดวิชาเพื่อตัดวงจรการแพร่ระบาด

นายมานิต นพอมรบดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ยอมรับว่าอาจมีจำนวนผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 มากกว่าที่ทางกระทรวงเปิดเผย โดยยืนยันว่าทางกระทรวงได้ปฏิบัติตามมาตรฐานการสุ่มตรวจตัวอย่าง จึงอาจทำให้ไม่ครอบคลุมทั้งหมด ทั้งนี้ทางกระทรวงได้ออกคำสั่งให้ทุกโรงพยาบาลจัดช่องทางพิเศษสำหรับผู้ป่วย ที่มีอาการไข้หวัด และให้ทุกโรงพยาบาลจัดทำแบบสำรวจความพึงพอใจของประชาชนที่มารับบริการ และเพิ่มจำนวนแพทย์ในช่วงหัวค่ำ เพราะเป็นช่วงเวลาที่ประชาชนมาใช้บริการมาก พร้อมยืนยันว่าการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลของรัฐไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น และฝากไปถึงประชาชนช่วยกันดูแลบุตรหลานหรือคนในครอบครัว หากมีอาการไข้ไม่ลดถึง 2 วันให้รีบเข้าพบแพทย์โดยด่วน

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า กระทรวงศึกษาธิการจะให้ความร่วมมือเต็มที่กับกระทรวงสาธารณสุข พร้อมเตรียมเสนอการปิดเรียนของโรงเรียนกวดวิชา ในวันที่ 13-26 กรกฎาคม 2552 เพื่อเป็นการตัดวงจรการแพร่ระบาดของเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 เข้าหารือในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในวันนี้ และเชื่อว่าทุกโรงเรียนจะให้ความร่วมมือ