Tuesday, September 21, 2010

สะพัดวงการส่งออก เครือข่าย"วังน้ำยม"เร่ขายข้าวรัฐ 2 ล้านตัน กะฟันกำไร 6 พันล้าน ให้จ่ายล่วงหน้า10%

สะพัดวงการส่งออก เครือข่าย"วังน้ำยม"เร่ขายข้าวรัฐ 2 ล้านตัน กะฟันกำไร 6 พันล้าน ให้จ่ายล่วงหน้า10%

แหล่งข่าวจากวงการค้าข้าว เปิดเผยเมื่อวันที่ 21 กันยายน 2553 อ้างว่า ขณะนี้ผู้ส่งออกและโรงสีหลายรายได้รับการติดต่อโดยตรงจากบริษัทเม้งไต๋ อินเตอร์เนชั่นแนลเทรด จำกัด ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในบริษัทเอ็มที เซ็นเตอร์เทรด จำกัด ซึ่งได้รับอนุมติใจากคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ(กขช.)ที่มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานให้ซื้อข้าวจากสต็อกของรัฐ เกือบ 2 ล้านตัน มูลค่าเกือบ 25,000 ล้านบาท แบ่งเป็นซื้อข้าวจากโกดังขององค์การตลาดเพื่อเกษตร(อ.ต.ก.) จำนวน 1.1 ล้านตันและโกดังขององค์การคลังสินค้า(อคส. )อีกเกือบ 1 ล้านตัน


แหล่งข่าวกล่าวว่า นอกจากนี้ยังมีตัวแทนค้าขายข้าว(หย๋ง)ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นของบริษัทเม้งไต๋ฯ เสนอให้ขายข้าวต่อที่ได้รับการอนุมัติเป็นรายคลังในราคาที่สูงกว่าประมูลซื้อได้จากภาครัฐ อาทิ ข้าวขาว 5% ในตันละ 1.34-1.35 หมื่นบาท สูงกว่าราคาที่รัฐอนุมัติขายที่ตันละ 1.2 หมื่นบาท ข้าวเหนียว 10% ในราคาตันละ 2.3-2.5 หมื่นบาท สูงกว่าราคาที่รัฐขายที่ตันละ 2 หมื่นบาท ข้าวหอมปทุมธานี ราคาตันละ 1.85-1.9 หมื่นบาท ที่ซื้อจากรัฐบาลตันละ 1.68 หมื่นบาท ซึ่งจะทำให้บริษัทที่ศซื้อข้าวจากรัฐกำไรส่วนต่างตันละ 1,000-3,000 บาท ถ้าบริษัทเอ็มที เซ็นเตอร์เทรด สามารถขายข้าวรัฐที่ซื้อมาได้ทั้งหมดเกือบ 2 ล้านตันจะมีกำไร 2,000-6,000 ล้านบาท


แหล่งข่าวกล่าวว่า บริษัทเม้งไต๋ ฯได้วางเงื่อนไขให้ผู้ซื้อต้องวางเงินค้ำประกันค่าข้าว 10% ซึ่งเชื่อว่า เป็นการระดมเงินเพื่อนำไปวางค้ำประกันค่าข้าว 5% ที่จะครบกำหนดทำสัญญาซื้อขายและวางเงินค้ำประกันที่จะครบกำหนด 10 วันภายในกลางสัปดาห์นี้


"ที่น่าวิตกคือข้าวจำนวนมากไม่น่าจะจัดส่งได้ทันตามเงื่อนไขภายใน 60 วัน เพราะจะทำให้ตัวเลขการส่งออกต่อเดือนสูงถึง 1 ล้านตันจากปกติส่งออกได้ 6-7 แสนตันเท่านั้น ทำให้วงการวิตกเรื่องการนำข้าวออกเวียนภายในประเทศเพื่อทำกำไรและไม่ผิดเงื่อนไขรัฐ แต่จะกระทบต่อราคาข้าวในประเทศอย่างมาก เป็นเรื่องที่กระทรวงพาณิชย์ต้องเร่งตรวจสอบ และทราบในวงการว่ าเม้งไต๋ ฯมีการร่วมทุนกับบริษัทกว่างต่ง เซ้งไท่ ของจีน ซึ่งเป็นบริษัทขนาดเล็กไม่น่าจะส่งออกได้จำนวนเป็นล้านตันต่อเดือน และการส่งออกไปจีนก็ไม่ต้องเปิดเลตเตอร์ออฟเครดิต(LC) จะใช้การเก็บเงินหลังรับมอบข้าวแล้ว "แหล่งข่าวกล่าว


แหล่งข่าวในกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ขณะนี้ผู้ส่งออกที่ได้รับการอนุมัติซื้อข้าวจากรัฐ 3-4 รายได้ทำหนังสือขอเพิ่มระยะเวลาการขนย้ายข้าวจากเดิม 60 วันเป็น 150 วัน และบางรายขอเลื่อนการวางเงินค้ำประกันไปอีก 1 สัปดาห์อ้างเอกสารไม่ครบ


นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่ายังไม่รับทราบเรื่องดังกล่าว และไม่เชื่อว่า บริษัทได้ข้าวรัฐจะนำไปขายต่อ เพราะก่อนอนุมัติขายก็ต้องมีใเอกสารคำสั่งซื้อจากต่างประเทศ ซึ่งราคาข้าวที่อนุมัติขายก็ใกล้เคียงกับราคาตลาด ตอนที่อนุมัติข้าว 5% ราคาตันละ 12,000 บาท ราคาตลาด 12,800 บาท ไม่กระทบต่อราคาในตลาดและรัฐลดภาระค่าใช้จ่ายเดือนละ 720 บาท/ตัน/เดือน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัทเอ็มที เซ็นเตอร์เทรด จำกัด เพิ่งจัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 30 เมษายน 2551 มีทุนจดทะเบียนเพียง 10 ล้านบาท หนึ่งในคณะกรรมการผู้มีอำนาจลงนามคือ น.ส.ภาวินี จารุมนต์ ซึ่งมีสายสัมพันธ์กับกลุ่มครอบครัว"เทพสุทิน"ของนายสมศักดิ์ เทพสุทิน หัวหน้ากลุ่มวังน้ำยม พรรคภูมิใจไทย ต้นสังกัดของนางพรทิวา นาคาสัย โดยน.ส.ภาวินีและครอบครัว"จารุมนต์" เป็นกรรมการและผู้ถือหุ้นในบริษัทของครอบครัว"เทพสุทิน"หลายบริษัท เช่น


บริษัท ดี แลนด์ เพอร์เฟคที่ นายเทิดไท-น.ส.ณัฐธิดา เทพสุทิน บุตรชายและบุตรสาวของนายสมศักดิ์ เป็นผู้ถือหุ้นและกรรมการบริษัท(ประกอบธุรกิจโรงแรม บาร์ คาราโอเกะ) โดย มีน.ส.ภาวินี จารุมนต์ เป็นผู้ถือหุ้น,


บริษัท เมก้า แลนด์ ประกอบธุรกิจค้าทอง มีนายเทิดไท เทพสุทินและ นายภเชศ จารุมนต์ เป็นกรรมการผู้อำนาจของบริษัท ทั้งนี้ ยังมี นายเทิดไท เทพสุทิน น.ส.ณัฐธิดา เทพสุทิน นางพร เทพสุทิน เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ น.ส.ธราพัน จารุมนต์ และนายภเชศ จารมนต์ เป็นผู้ถือหุ้น

นอกจากนั้นนายสุนทร จารุมนต์ ยังเป็นกรรมการบริหารสนามกีฬาไก่ชนเทิดไท อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการซึ่งเป็นสนามไก่ชนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไไทยของครอบครัว"เทพสุทิน"ด้วย


มติชนออนไลน์, 21 กันยายน พ.ศ. 2553

No comments:

Post a Comment