Tuesday, October 13, 2009

ผลสอบสธ.ชี้ชัดยัดไส้ซื้อครุภัณฑ์ ฟันข้าราชการไร้เงานักการเมือง

ผลสอบสธ.ชี้ชัดยัดไส้ซื้อครุภัณฑ์ ฟันข้าราชการไร้เงานักการเมือง

สธ. เผยผลสอบ "โครงการไทยเข้มแข็ง" พบยัดไส้จัดซื้อจริง รพ.ไม่ได้ขอ ทั้งยูวีแฟน เครื่องดมยาสลบ เครื่องช่วยหายใจ โดยเฉพาะเครื่องตรวจชีวเคมีในเลือดจัดซื้อถึง 40 เครื่องๆ ละ 3 ล้านบาท เผยข้าราชการมีเอี่ยว แต่ขออุบชื่อ "ไอ้โม่ง" ก่อน พร้อมตั้ง คกก.สอบวินัย ด้าน "วิทยา" รับมีบีบให้ลาออกจาก รมว.สธ.จริง แต่ชี้แจง พรรคเข้าใจ ขอเวลา 1 วันหารือตั้งคณะกรรมการคนนอก ด้าน "หมอเกรียง" ผิดหวัง ผลสอบฟันแค่ข้าราชการประจำ ไม่มีนักการเมืองเอี่ยว

นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยคณะกรรมการตรวจสอบปัญหาการจัดซื้อครุภัณฑ์ทางการแพทย์ 6 รายการ และคณะกรรมการทบทวนการจัดซื้อจัดจ้างในโครงการไทยเข้มแข็งกระทรวงสาธารณสุข แถลงข่าวผลการตรวจสอบ ภายหลังจากที่ นายวิทยา แก้วภราดัย รมว.สาธารณสุข มีคำสั่งแต่งตั้งและให้สรุปภายใน 2 สัปดาห์

นพ.ไพจิตร์ กล่าวว่า ผลการตรวจสอบหลังดำเนินการ 1 สัปดาห์ได้ข้อสรุปเบื้องต้น คือ
1.มีการจัดสรรครุภัณฑ์บางรายการที่ไม่ตรงกับความต้องการ และไม่มีคำขอแต่กลับมีการจัดสรรให้ เช่น เครื่องฆ่าเชื้อโรคด้วยแสงอัลตราไวโอเลตระบบยูวี-แฟน
2.มีการจัดสรรเครื่องมือแพทย์ที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ และไม่เหมาะสม เช่น เครื่องดมยาสลบ เครื่องช่วยหายใจ เครื่องตรวจชีวเคมีในเลือด ซึ่งไม่จำเป็นสำหรับโรงพยาบาลชุมชน แต่กลับมีรายการจัดซื้อ
3.สิ่งก่อสร้าง ซึ่งพบว่ามีการจัดสรรงบประมาณให้สูงกว่าที่เคยก่อสร้างมาจากการประเมิน เช่น อาคารพักพยาบาล 24 ห้อง ที่มีการวางงบประมาณที่มากกว่าราคากลาง ซึ่งมีเหตุผลจากการประเมินราคาในอนาคตทำให้ราคาสูงกล่าวปกติ ดังนั้นในประเด็นนี้จึงให้ทบทวนหามาตรการคำนวณให้สมเหตุ สมผลมากกว่านี้ โดยให้หน่วยงานภายนอกมาร่วมคำนวณราคารวมกับกองแบบแผน


"หนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาจากการตรวจสอบข้อเท็จ จริงเพื่อให้ทราบว่ามีบุคลากรที่เกี่ยวข้อง ซึ่งความบกพร่องในการจัดซื้อที่เกิดขึ้นนั้น จะต้องสอบสวนต่อไปว่า เกิดโดยเจตนา หรือความไม่รอบคอบ แต่เพื่อความเป็นธรรมและปฏิบัติตามขั้นตอนกฎหมายต้องมีการตั้งคณะกรรมการสอบ สวนขึ้นเพื่อพิจารณาในเรื่องนี้ และให้โอกาสบุคคลที่เกี่ยวข้องได้ชี้แจงก่อนที่จะมีการเปิดเผยชื่อบุคคล เหล่านั้นได้ ดังนั้นใน 1 สัปดาห์ที่ผ่านมาจึงเป็นแค่การตรวจสอบเบื้องต้นเท่านั้น"

สั่งทุกจังหวัดทบทวนรายการจัดซื้อ

นพ.ไพจิตร์ กล่าวว่า นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้มอบหมายให้นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดไปทบทวนรายการ จัดซื้อในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) และให้ นพ.เกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ ทบทวนรายการจัดซื้อในโรงพยาบาลชุมชน และ นพ.วีรพงษ์ เพ่งวานิช ผู้อำนวยการโรงพยาบาลฉะเชิงเทรา ทบทวนรายการจัดซื้อใน รพ.ศูนย์ รพ.ทั่วไป และศูนย์ และในอีก 2 สัปดาห์ จะเชิญคณะกรรมการทั้งหมดมาประชุมกันใหม่เพื่อพิจารณารายละเอียดการจัดซื้อใน โครงการไทยเข้มแข็งทั้งหมด

ส่วนผลสอบสวนมีข้าราชการและนักการเมืองเกี่ยว ข้องกี่คน นพ.ไพจิตร์ กล่าวว่า เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม จึงยังไม่สามารถลงรายละเอียดในตอนนี้ได้ แต่ยอมรับว่ามีผู้เกี่ยวข้องหลายคน ซึ่งจะสอบสวนให้เร็วที่สุด หลังจากคณะกรรมการชุด นพ.เสรี ชี้แล้วว่ามีความไม่ปกติเกิดขึ้น และนำเสนอรายงานผลสอบมายังตนเพื่อเร่งตั้ง คณะกรรมการสอบต่อไป

ต่อข้อซักถามว่า การจัดซื้อครุภัณฑ์ทางการแพทย์มีใบสั่งจากการเมืองจริงหรือไม่ นพ.ไพจิตร์ กล่าวว่า "คงเป็นที่รับทราบว่ามีข้าราชการระดับ ผอ.ไปให้ข้อมูลต่อที่ประชุมคณะกรรมาธิการสาธารณสุข สภาฯ ซึ่งก็มีคนที่เกี่ยวข้องจริง"

ชี้มีแค่ข้าราชการพัวพัน

ด้าน นพ.เสรี หงษ์หยก ประธานคณะกรรมการตรวจสอบปัญหาการจัดซื้อครุภัณฑ์ทางการแพทย์ 6 รายการ กล่าวว่า ในการตรวจสอบข้อเท็จจริงของคณะกรรมการชุดนี้มีอำนาจเพียงแค่เรียกข้าราชการ และสรุปเฉพาะแค่ ข้าราชการเท่านั้น และลูกจ้างในกระทรวงมาชี้แจงเท่านั้น ส่วนคนนอกไม่มีสิทธิเรียกมาให้ข้อมูลได้ ดังนั้นกรณีที่เป็นข่าวอักษรย่อก่อนหน้านี้ จึงไม่มีสิทธิเรียกมาสอบได้ อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบของคณะกรรมการฯ ยืนยันว่า มีรายการจัดซื้อที่ไม่ตรงกับความต้องการ โดยเฉพาะเครื่องตรวจสารเคมีในเลือดมูลค่า 3 ล้านบาท ที่ไม่จำเป็น ไม่มีการขอแต่กลับมีการสั่งจัดซื้อให้กับโรงพยาบาลเล็กขนาด 30 เตียงถึง 40 แห่ง จึงมีการตั้งคำถาม รวมทั้งเครื่องยูวี-แฟนและเครื่องดมยาสลบ ที่เป็นหลักฐานชัดเจน

ตั้งกรรมการคนนอกตรวจซ้ำ

นายวิทยา แก้วภราดัย รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า ผลสอบโครงการไทยเข้มแข็งสธ.ว่า ขอเวลาอีก 1 วันเพื่อพูดคุยกับ นพ.เสรี หงษ์หยก ก่อน และจึงจะพิจารณาว่าจะจัดตั้งคณะกรรมการคนนอกเพื่อสอบสวนหรือไม่ ทั้งนี้ขอยืนยันว่าจะไม่เข้าไปแทรกแซงการตรวจของคณะกรรมการทุกชุด โดยให้ทำงานเป็นอิสระ ส่วนที่การไม่มีเปิดเผยรายชื่อผู้ที่พัวพันปัญหาการจัดซื้อจัดจ้างในครั้ง นี้นั้น เป็นไปตามฝ่ายกฎหมายสธ.แนะนำเพื่อให้คนเกี่ยวข้องได้ชี้แจงก่อน

หมอชนบทผิดหวังผลสอบ

ด้าน นพ.เกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ ประธานชมรมแพทย์ชนบท กล่าวว่า รู้สึกผิดหวังเป็นอย่างมาก เพราะเหมือนว่าพูดไม่หมด เนื่องจากผลการสอบไม่มีถึงฝ่ายการเมืองที่เกี่ยวข้อง จึงรู้สึกไม่สบายใจ และคลางแคลงใจ กังวลว่าในสุดเรื่องนี้จะสาวไม่ถึงต้นตอที่สั่งดำเนินการ แต่ก็เข้าใจว่าเป็นธรรมชาติ ตราบใดที่ผู้มีอำนาจในระดับล่างทำงานให้ผู้มีอำนาจในระดับบน ก็จะยังมีความเกรงกันอยู่ ดังนั้น จึงเสนอว่าควรมีการตั้งคณะกรรมการกลางที่เป็นคนนอกเข้ามาตรวจสอบ เช่นเดียวกับกรณีสอบทุจริตยา

สำหรับผู้ที่เหมาะมาเป็นประธานคณะกรรมการกลาง เพื่อตรวจสอบเรื่องนี้นั้น ตนยังเห็นว่า นพ.บรรลุ ศิริพานิช เป็นผู้ที่มีความเหมาะสม เพราะเป็นผู้ที่อยู่ในแวดวงสาธารณสุขมานาน เป็นคนมีความรู้ มีบารมี เกียรติภูมิน่าเชื่อถือ หากผลสอบของ นพ.บรรลุ ระบุว่า ฝ่ายการเมืองไม่มีส่วนเกี่ยวตนก็จะเชื่อ แต่เมื่อการสอบยังดำเนินการโดยคนในกระทรวง ตนจึงไม่เชื่อมั่นในกระบวนการตรวจสอบนี้

"ผมสงสัยว่า ทำไมผลสอบในครั้งนี้ ไม่มีการพูดถึงฝ่ายการเมืองเลย ทั้งๆ ก็มีการให้ข้อมูลฝ่ายการเมืองที่เกี่ยวข้องต่อคณะกรรมาธิการสาธารณสุข สภาฯ และมีการรับรู้เป็นวงกว้าง แต่กรรมการชุดนี้กลับไม่รู้และไม่พูดถึงเลย" ประธานชมรมแพทย์ชนบท กล่าว

ครม.แต่งตั้งซี9-10สธ.

นพ.ภูมินทร์ ลีธีระประเสริฐ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุม ครม.มีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนของกระทรวงสาธารณสุข จำนวน 8 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายจักรธรรม ธรรมศักดิ์ รองปลัดกระทรวง เป็นอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ นายมานิต ธีระตันติกานนท์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เป็นอธิบดีกรมควบคุมโรค นายนรา นาควัฒนานุกูล อธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เป็นอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ นายสมยศ ดีรัศมี อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เป็นอธิบดีกรมอนามัย นพ.เสรี หงษ์หยก ผู้ตรวจราชการกระทรวง เป็นรองปลัดกระทรวง นาย

ทนงสรรค์ สุธาธรรม ผู้ตรวจราชการกระทรวง เป็นรองปลัดกระทรวง นายสถาพร วงษ์เจริญ ผู้ตรวจราชการกระทรวง เป็นรองปลัดกระทรวง และนางวิลาวัณย์ จึงประเสริฐ ผู้ตรวจราชการกระทรวง เป็นอธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป

นพ.ภูมินทร์ กล่าวว่า นอกจากนี้ที่ประชุม ครม.ยังได้อนุมัติแต่งตั้งข้าราชการสังกัดกระทรวงสาธารณสุขดำรงตำแหน่งระดับ 10 จำนวน 3 ราย คือ นายศิวฤทธิ์ รัศมีจันทร์ นางชุติมา กาญจนวงศ์ และนายศุภชัย ไพบูลย์ผล ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นอกจากนี้ที่ประชุม ครม.ยังอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการกระทรวงพลังงานอีก 1 ราย คือ น.ส.นันธิกา ทังสุพาณิช ผู้อำนวยการสำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงพลังงาน เป็นผู้ตรวจราชการ

พท.ตั้งคณะ กก.เงาบี้ทุจริตรายกระทรวง

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงภายหลังการประชุมพรรค ถึงการตั้งคณะกรรมการติดตามการทุจริตของรัฐบาลรายกระทรวง ว่า แกนนำพรรคเสนอให้มีคณะกรรมการเงาติดตามรายกระทรวงการทุจริตและทำงานผิด กฎหมาย รวมถึงการใช้งบไทยเข้มแข็งโดยให้ ส.ส.เข้าชื่อว่าอยากเป็นกรรมการชุดไหน

ทั้งนี้ กรรมการชุดดังกล่าวจะเริ่มติดตามการตรวจสอบงบชุมชนพอเพียง รวมทั้งโครงการไทยเข้มแข็ง ที่สำคัญกระทรวงสาธารณสุข ที่รัฐมนตรีบอกว่ายังไม่มีการโกงเพราะยังไม่ได้อนุมัติเป็นการพูดจาตามพรรค ประชาธิปัตย์ ทั้งที่มีการยัดไส้ครุภัณฑ์ซึ่งถือว่าโกงไปแล้วส่วนหนึ่ง แต่นายกฯ กลับถามหาใบเสร็จ คิดว่าสุดท้ายคงไม่พ้นข้าราชการ ทั้งนี้การทำงานของคณะกรรมการเริ่มดำเนินการสัปดาห์หน้า

กรุงเทพธุรกิจ, วันพุธที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2552

No comments:

Post a Comment